ยิงธนูฝึกกายหรือ.. ฝึกใจ (EP.3)

 

สมาธิแปลว่า.. ตั้งใจ

 

การทำงานใด ๆ อย่างมีสมาธิ มีความตั้งใจ ย่อมได้รับผลสำเร็จ …การยิงธนูนั้นก็เป็นเช่นเดียวกัน

เคยได้ยินผู้ฝึกสอนการยิงธนูท่านนึงกล่าวไว้ว่า ” การยิงธนูไม่ได้เป็นการฝึกสมาธิ หากแต่เป็นการใช้สมาธิ ” ผู้เขียนได้ยินได้ฟังคำกล่าวนี้เมื่อกว่าสิบสามปีมาแล้ว ( ประมาณพ.ศ. 2549 มั้ง ) ในขณะนั้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าสมาธิคืออะไร และมีลักษณะเป็นอย่างไร จนกระทั่งต่อมาผู้เขียนได้มีโอกาสเข้ามาอาศัยร่มผ้ากาสาวพัสตร์ในพระพุทธศาสนาแห่งองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมสุคตเจ้า จึงได้มีความเข้าใจในเรื่องของสมาธิ ( เพียงเล็กน้อย )

( ในรูปพระอาจารย์สายทอง เตชะธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม จังหวัดชัยภูมิ และผู้เขียน ( ขวา ) ถ่ายเมื่อปีพ.ศ.2559 )

ครูบาอาจารย์พระผู้เฒ่าได้อธิบายไว้ว่า สมาธิแปลว่า.. ตั้งใจ กล่าวคือเมื่อเรา ๆ ท่าน ๆ ประกอบกิจ การงาน ใด ๆ ด้วยความตั้งใจในขณะใด.. นั่นคือท่านมีสมาธิในขณะนั้น

ในบางครั้งบางคราว ท่านจะไม่สนใจในเสียงดัง ๆ รอบข้าง ไม่หิว ไม่กระหาย ใจจดจ่ออยู่กับแต่การงานนั้น ๆ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ..ความจริงมันก็รับรู้ได้ถึงเสียงรอบข้าง ความหิว กระหาย ตลอดจนความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า แต่ทว่าใจมันไม่สนใจ กลับจดจ่ออยู่กับการงานที่กำลังทำอยู่มากกว่า

เช่นเดียวกับ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในขณะดูหนังสือเตรียมสอบ เวลาทำโจทย์แบบฝึกหัด ต่าง ๆ ก็จะมีอาการเป็นแบบเดียวกับที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ..นั่นแหละคือ สมาธิ

บางครั้ง บางท่าน อาจทรงสมาธิอยู่อย่างนั้นได้เป็นชั่วโมง สองชั่วโมง ตลอดไปจนถึงครึ่งค่อนวัน หรือมากกว่า

นักกีฬาทุกประเภท ไม่เว้นแม้แต่นักกีฬายิงธนู ก็สามารถพบกับสมาธิ มีอาการแบบเดียวกันนั้นได้เช่นเดียวกัน ในบางครั้งท่านจะสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของร่างกาย รับรู้จังหวะการหายใจ ช่วงเวลาในการปล่อยลูกธนู โดยละเอียดราวกับภาพสโลโมชัน หรือเหมือนกับว่ามีใครมาหน่วงเวลาให้ช้าลงอย่างไรก็อย่างนั้น จิตใจมีความรู้สึกปลอดโปร่ง คลายจากความเคร่งเครียด ความวิตก กังวล ใด ๆ อาการที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของท่านอย่างนี้  ..นั่นแหละคือ สมาธิ

อาการเหล่านี้ในทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า ขณิกสมาธิ พระผู้เฒ่าท่านอธิบายไว้ว่า นี่เป็นสมาธิเล็กน้อย เป็นสมาธิชั่วครั้งชั่วคราว สามารถมีได้ในมนุษย์ปกติ ทุกผู้ทุกคน ( ที่มีจิตใจเป็นปกติ )

และหากได้รับการฝึกฝน อบรม อย่างเหมาะสมถูกวิธี มีความชำนาญ สมาธิที่เกิดขึ้นสามารถมีความแนบแน่น มั่นคง และแข็งแกร่งขึ้นได้อีกมาก จนไปถึงขั้นที่เรียกว่าเป็นฌาน สมาบัติ นั่นเอง

พระผู้เฒ่ายังได้กล่าวไว้อีกว่าขณะใด เมื่อจิตใจเป็นสมาธิขึ้นมา นั่นคือจิตใจถูกผลักออกห่างจากระบบประสาท ร่างกาย ชั่วครั้งชั่วคราว ตามระดับกำลังของสมาธิ ในผู้ปฏิบัติบางท่านสามารถแยกจิตใจ ออกจากร่างกาย ( ชั่วคราว ) คล้ายราวกับคนตายได้ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ถอดจิต” นั่นแหละ แต่ภาษาพระผู้เฒ่าท่านเรียกว่า.. อทิสมานกาย

สมาธิในทางพระพุทธศาสนานี้ พระท่านบอกว่า ยังมิใช่แก่นแท้เนื้อในแห่งพระศาสนา ยังไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์ดับทุกข์อย่างสิ้นเชิงถาวร หากแต่เป็นเพียงเครื่องมือที่จะนำพาไปสู่ มรรค ผล นิพพาน  สมาธิเป็นส่วนเสี้ยวหนึ่งใน ทาน ศีล และภาวนา เป็นส่วนเสี้ยวหนึ่งของสะเก็ดความดีในพระพุทธศาสนา ซึ่งพระท่านก็นิยมและสนับสนุนให้ทุก ๆ ท่าน ได้พยายามฝึกหัดไว้ให้เป็นอุปนิสัย ปัจจัยสู่ความสุขสงบนิรันดร์ในที่สุดได้

พระท่านก็สนับสนุนให้ฝึกสมาธิ เป็นการสร้างความดีเพียงเล็กน้อย แต่มีผลใหญ่ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตเบื้องหน้า หาประมาณ ที่สุดมิได้เชียวครับ

ส่วนนักธนูอาจมีคำถามว่า อยากมีสมาธิที่ดีเพื่อให้ยิงแม่น ๆ  ..จะต้องทำการฝึกหรือปฏิบัติตัวอย่างไร ?

ในบทต่อไปจะตอบคำถามนี้ ( EP.4 )

KBT

8 ส.ค. 2562